- คอลลาเจนไทป์ II (Collagen type II)
- แคลเซียม ผสมวิตามินดี (Calcium plus vitamin D)
- สารสกัดจากน้ำมันงาขาว (Sesame oil)
- น้ำมันตับปลา (Cod liver oil)
บทความอ้างอิง
1.เคล็ดลับ…เพิ่มความแข็งแรงให้ข้อเข่า ด้วย Bone and Joint จาก โรงพยาบาลพญาไท
เมื่อมีปัญหาข้อเข่าเสื่อม เชื่อว่าส่วนใหญ่ย่อมพยายามหาสิ่งที่ช่วยบำรุงข้อที่มีประโยชน์ ที่ไม่ใช่ยา แต่ปัญหาก็คือ ไม่รู้ว่าวิตามิน อาหารเสริมชนิดใดที่ดีกับข้อเข่าจริงๆ วิตามินที่จะซื้อช่วยเสริมสร้าง ฟื้นฟูกับส่วนที่มีปัญหาในข้อเข่าได้ครอบคลุมหรือไม่ ต้องซื้อกี่ชนิด ต้องกินปริมาณเท่าไหร่จึงจะเพียงพอในแต่ละวัน แล้วจะมีสารตกค้างอะไรกับร่างกายหรือไม่ แต่คำถามเหล่านี้จะหมดไป…เพราะ ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้จัดทำวิตามินสูตร Bone and Joint ที่ได้รับการค้นคว้าและพิสูจน์แล้วว่าช่วยดูแลฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวข้อกระดูก ที่คัดสรรคุณประโยชน์ต่างๆ มาเพื่อดูแลทุกองค์ประกอบของข้อและกระดูกในร่างกาย…ที่ไม่ใช่แค่ข้อเข่าเท่านั้น แต่เรียกว่าลงลึกถึงระดับเซลล์ของกระดูก(ทั่วร่างกาย)กันเลยทีเดียว
Bone and Joint ประกอบด้วยคุณสมบัติเด่นๆ คือ
• คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) สกัดจากกระดูกอ่อนของไก่เป็นองค์ประกอบ มีส่วนสำคัญที่ช่วยในการลดอัตราการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อโดยมีสารสำคัญ คือ เอพพิโทพส์ (Epitopes) อันเปรียบเสมือนเป็นกุญแจที่จะไปหยุดกระบวนการทำลายของกระดูกอ่อน ซึ่งจะไม่สามารถพบได้ในไฮโดรไลซ์คอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen) ทั่วไป มีรายงานวิจัยว่าสามารถช่วยลดการทำลายคอลลาเจน ต้านการอักเสบ และช่วยทำให้เคลื่อนไหวข้อได้ดีขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมดีขึ้น
• วิตามินดี 3 (Vitamin D3) มีบทบาทสำคัญต่อการบำรุงสุขภาพกระดูกและฟันให้แข็งแรง และวิตามินดี 3 ที่เรานำมาใช้นั้นมีความพิเศษ คือเป็นชนิดที่ร่างกายไม่ต้องถูกเปลี่ยนที่ตับและที่ไต เหมือนเช่นวิตามินดีโดยทั่วๆ ไป
• คอนดรอยติน (Chondroitin SCP) ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนบริเวณข้อ มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนขึ้นใหม่ สร้างสมดุลของน้ำในข้อ และช่วยให้บริเวณข้อมีการยืดหยุ่นที่ดีเมื่อมีการเคลื่อนไหว
2.งาดำ งาขาว กับประโยชน์ทางสุขภาพ
งาดำและงาขาวเป็นเมล็ดของพืชชนิดหนึ่งที่ภายในอุดมไปด้วยน้ำมัน และยังเป็นแหล่งของโปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินที่หลากหลาย ด้วยสารอาหารพร้อมคุณค่าที่มีอยู่มากมายทำให้เชื่อกันว่างาดำและงาขาวนั้นมีสรรพคุณในการรักษาโรคนานาชนิด
ประโยชน์ทางโภชนาการของงาดำและงาขาว
โรคกระดูกอ่อนในเด็ก งานวิจัยหนึ่งทดลองว่าการเพิ่มอาหารบางชนิดจะช่วยให้เด็กที่เป็นโรคกระดูกอ่อนจากการขาดแคลเซียมได้รับแคลเซียมเพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยอาสาสมัครทั้งหมดเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 10 ปี จำนวน 41 คน ทุกคนรับประทานอาหารเพิ่มเติมจากข้าว 5 ชนิด ได้แก่ หินปูน 1 กรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม ปลาเล็กมีกระดูกแทนปลาใหญ่ กากเมล็ดงา 5 กรัม ใบผัก 100 กรัม หรือนม 100 กรัม ซึ่งผลปรากฏว่าอาหารเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้อาการของโรคดีขึ้นมากนัก เพียงแต่ดีขึ้นกว่าเดิม ทางผู้วิจัยจึงแนะนำว่าการรับประทานอาหารเหล่านี้เพิ่มเติมอาจมีประสิทธิภาพคุ้มราคาและเป็นตัวเลือกการรักษาในระยะยาว ทั้งนี้ประโยชน์ของงาและอาหารดังกล่าวที่ส่งผลต่อโรคกระดูกอ่อนยังคงคลุมเครือ หากต้องการลองรับประทานตามควรปฏิบัติอย่างเหมาะสม
โรคข้อเสื่อม เชื่อกันว่างาดำอาจเป็นทางเลือกเสริมในการรักษาโรคนี้ ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ได้มีการศึกษากับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม 50 คน ทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มจำนวนเท่า ๆ กัน กลุ่มแรกรับการรักษาตามมาตรฐานปกติ ส่วนอีกกลุ่มให้รับประทานงาวันละ 40 กรัม นาน 2 เดือนควบคู่กับการใช้ยารักษาโรค ผลลัพธ์ที่ได้ชี้ว่าในอาการของผู้ป่วยกลุ่มโรคข้อเข่าเสื่อมที่รับประทานงานั้นดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้งาร่วมรักษากับโรคนี้ยังไม่มีการแนะนำอย่างเป็นมาตรฐานเพราะมีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่น้อยเกินไป
โรคข้ออักเสบ การศึกษาชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับประสิทธิภาพของน้ำมันงาในการบรรเทาอาการที่เกิดจากโรคข้ออักเสบพบว่าการรับประทานน้ำมันงา 1 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุกวันต่อเนื่องนาน 28 วัน มีประโยชน์ในการช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระและสารเคมีที่ก่อการอักเสบในร่างกายของผู้ป่วย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการผ่อนคลายของของหลอดเลือดแดงเอออร์ตา และมีแนวโน้มที่จะลดการบวมของเท้าด้านหลัง ซึ่งประโยชน์เหล่านี้ส่งผลดีต่อตัวผู้ป่วยเอง ทั้งนี้งาดำจะนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคข้ออักเสบได้จริงหรือไม่คงต้องรอผลการศึกษาในอนาคตที่แน่นอนกว่านี้ต่อไป
ที่มาจาก งาดำ งาขาว กับประโยชน์ทางสุขภาพ – พบแพทย์ (pobpad.com)